Monthly Archives: มีนาคม 2019

เลข 8 เป็นเลขมงคล infinity ไม่มีที่สิ้นสุด

“อินฟินิตี้” นี้มีความหมาย

คำว่า infinity นั้นหมายถึง ไม่มีที่สิ้นสุด 
ในเรื่องของความมั่งคั่ง หมายถึงเงินเข้าตลอดเวลา


ชาวจีน เลข 8 ถือว่าเป็นเลขมงคลมากๆ 
เป็นเลขแห่งความร่ำรวย ขยันหาเงิน 
เลข 8 คือเลขของเศรษฐีรวยล้นฟ้า ฉลาด
คล่องแคล่ว ทันคน กล้าได้กล้าเสีย


แต่ในบางตำราเลข 8 เป็นเลขราหู 
เป็นเลขแห่งความลุ่มหลง
เลขแห่งยามค่ำคืน จึงไม่ควรมีเลข 8 มากเกินไป
เพราะคนที่ใช้จะเป็นคนเจ้าเล่ห์


แต่สำหรับเครื่องประดับแล้ว
การเลือกแหวนทอง infinity นั้นมีความหมายที่ดีมาก
ผู้ที่สวมใส่แล้วจะมั่งมีมั่งคั่ง ร่ำรวย
เพราะทองคำก็เป็นของมงคลอยู่แล้ว
ยิ่งใช้สัญลักษณ์ดีๆเข้าไป จะยิ่งนำพาความมั่งคั่งมาสู่ผู้ใช้


สนใจแหวนทองคำ infinity 
สอบถามราคา หรือ มาลองสวมได้ที่ 
ร้านทองปาริชาติระยอง #บิ๊กซีระยอง ชั้น 2
———————-
แหวนทองคำแท้ 96.5% 
ทองคำคุณภาพมาตรฐาน
ราคาเป็นไปตามราคาทอง ณ ปัจจุบัน และยังไม่รวมค่ากำเหน็จ
———————–

สั่งซื้อออนไลน์ คลิก 
inbox : https://bit.ly/ThongParichatRayong
Line @thongnarichat (มี @ นำหน้า)

#เพจออมทองกับทองปาริชาติระยอง
#ร้านทองปาริชาติระยอง#ร้านทองของคนระยอง
#ทองดีมีคุณภาพ#ตรุษจีน#วาเลนไทม์

หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด 2

#หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด (ต่อ)

#รบด้วยปัญญา

กระทั่งวันหนึ่งถึงกาลเวลาที่ชื่อเสียงของหลวงพ่อทวดหรือเจ้าสามีรามจะระบือลือลั่นไปทั่วกรุงสยาม จึงได้มีเหตุพิสดารอุบัติขึ้นในรัชสมัยของพระเอกาทศรถ กล่าวคือ สมัยนั้นพระเจ้าวัฏฏะคามินี แห่งประเทศลังกา ซึ่งเคยเป็นเมืองขึ้นของอาณาจักรแหลมทองทางภาคใต้ คิดแก้มือด้วยการท้าพนันแปลธรรมะ และต้องการจะแผ่พระบรมเดชานุภาพมาทางแหลมทอง ใคร่จะได้กรุงศรีอยุธยามาเป็นประเทศราช แต่พระองค์ไม่ปรารถนาให้เกิดศึกสงครามเสียชีวิตแก่ประชาชนทั้งสองฝ่าย จึงทรงวางแผนการเมืองด้วยสันติวิธี คิดหาทางรวบรัดเอากรุงศรีอยุธยาเป็นเมืองขึ้นด้วยสติปัญญาเป็นสำคัญ เมื่อคิดได้ดังนั้น พระเจ้ากรุงลังกาจึงมีพระบรมราชโองการสั่งให้พนักงาน ท้องพระคลังเบิกจ่ายทองคำบริสุทธิ์แล้วให้ช่างทองประจำราชสำนักไปหล่อ ทองคำเหล่านั้นให้เป็นตัวอักษรบาลีเล็กเท่าใบมะขาม ตามพระอภิธรรมทั้งเจ็ดคัมภีร์ จำนวน 84,000 ตัว จากนั้นก็ทรงรับสั่งให้พราหมณ์ผู้เฒ่าอันมีฐานะเทียบเท่าปุโรหิตจำนวนเจ็ดท่านคุมเรืองสำเภาเจ็ดลำบรรทุกเสื้อผ้าแพรพรรณ และของมีค่าออกเดินทางมายังกรุงศรีอยุธยาพร้อมกับปริศนาธรรมของพระองค์

เมื่อพราหมณ์ทั้งเจ็ดเดินทางลุล่วงมาถึงกรุงสยามแล้วก็เข้าเฝ้าถวายพระราชสาส์นของกษัตริย์ตนแก่พระเจ้าเอกาทศรถ มีใจความในพระราชสาส์นว่า

พระเจ้ากรุงลังกาขอท้าให้พระเจ้ากรุงสยามทรงแปลและเรียบเรียงเมล็ดทองคำตามลำดับให้เสร็จภายในกำหนดเจ็ดวันนับแต่วันที่ได้รับพระราชสาส์นนี้เป็นต้นไป ถ้าทรงกระทำไม่สำเร็จตามสัญญาก็จะยึดกรุงศรีอยุธยาให้อยู่ใต้พระบรมเดชานุภาพของพระองค์ และทางกรุงสยามจะต้องส่งดอกไม้เงินดอกไม้ทองอีกทั้งเครื่องราชบรรณาการแก่กรุงลังกาตลอดไปทุกๆ ปีเยี่ยงประเทศราชทั้งหลาย

#พระสุบินนิมิต

เมื่อพระเอกาทศรถทรงทราบความ ดังนั้น จึงมีพระบรมราชโองการให้สังฆการีเขียนประกาศนิมนต์พระราชาคณะและพระเถระทั่วพระมหานคร ให้กระทำหน้าที่เรียบเรียงและแปลตัวอักษรทองคำในครั้งนี้ แต่ก็ไม่มีท่านผู้ใดสามารถเรียบเรียงและแปลอักษรทองคำในครั้งนี้ได้จนกาลเวลาลุล่วงผ่านไปได้หกวัน ยังความปริวิตกแก่พระองค์และไพร่ฟ้าประชาชนต่างพากันโจษขานถึงเรื่องนี้ให้อื้ออึงไปหมด

ครั้นราตรีกาลยามหนึ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเข้าพระบรรทมทรงสุบินว่า ได้มีพระยาช้างเผือกลักษณะบริบูรณ์เฉกเช่นพระยาคชสารเชือกหนึ่ง ผายผันมาจากทางทิศตะวันตก เยื้องย่างเข้ามาในพระราชนิเวศน์แล้วก้าวเข้าไปยืนผงาดตระหง่านบนพระแท่นพลางเปล่งเสียงโกญจนาทกึกก้องไปทั่วทั้งสี่ทิศ เสียงที่โกญจนาทด้วยอำนาจของพระยาคชสารเชือกนั้นยังให้พระองค์ทรงสะดุ้งตื่นจากพระบรรทม

รุ่งเช้าเมื่อพระองค์เสด็จออกว่าราชการ ได้ทรงรับสั่งถึงพระสุบินนิมิตประหลาดให้โหรหลวงฟังและได้รับการกราบถวายบังคมทูลว่า เรื่องนี้หมายถึงชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ของพระองค์และพระบรมเดชานุภาพจะแผ่ไพศาลไปทั่วสารทิศเป็นที่เกรงขามแก่อริราชทั้งปวง ทั้งจะมีพระภิกษุหนุ่มรูปหนึ่งจากทางทิศตะวันตก มาช่วยขันอาสาแปลและเรียบเรียงตัวอักษรทองคำปริศนาได้สำเร็จ พระเจ้าอยู่หัวได้ฟังดังนั้นจึงค่อยเบาพระทัย และรับสั่งให้ข้าราชบริพารทั้งมวลออกตามหาพระภิกษุรูปนั้นทันที

#อักษรเจ็ดตัว

ต่อมาสังฆการีได้พยายามเสาะแสวงหาจนไปพบ “เจ้าสามีราม” ที่วัดราชานุวาส และเมื่อได้ไต่ถามได้ความว่าท่านมาจากเมืองตะลุง (พัทลุงในปัจจุบัน) เพื่อศึกษาพระธรรมวินัย สังฆการี จึงเล่าความตามเป็นจริงให้เจ้าสามีรามฟังทั้งได้อ้างตอนท้ายว่า “เห็นจะมีท่านองค์เดียวที่ตรงกับพระสุบินของพระเจ้าอยู่หัว จึงใคร่ขอนิมนต์ให้ไปช่วยแก้ไขในเรื่องร้ายดังกล่าวให้กลายเป็นดี ณ โอกาสนี้” ครั้นแล้วเจ้าสามีรามก็ตามสังฆการีไปยังที่ประชุมสงฆ์ ณ ท้องพระโรง พระเจ้าอยู่หัวทรงมีรับสั่งให้พนักงานปูพรมให้ท่านนั่งในที่อันควร พราหมณ์ทั้งเจ็ดคนได้ประมาทเจ้าสามีรามโดยว่า เอาเด็กสอนคลานมาให้แก้ปริศนา เจ้าสามีรามก็แก้คำพราหมณ์ว่า กุมารเมื่ออกมาแต่ครรภ์พระมารดา กี่เดือนกี่วันจึงรู้คว่ำ กี่เดือนกี่วันจึงรู้นั่ง กี่เดือนกี่วันจึงรู้คลาน จะว่ารู้คว่ำแก่ หรือจะว่ารู้นั่งแก่ หรือจะว่ารู้คลานแก่ ทำไมจึงว่าเราจะแก้ปริศนาธรรมมิได้ พราหมณ์ก็นิ่งไปไม่สามารถตอบคำถามท่านได้ จากนั้นจึงรีบนำบาตรใส่อักษรทองคำเข้าไปประเคนแก่เจ้าสามีราม

ท่านรับประเคนมาจากมือพราหมณ์แล้วนั่งสงบจิตอธิษฐานว่า “ขออำนาจคุณบิดามารดาครูบาอาจารย์และอำนาจผลบุญกุศลที่ได้สร้างมาแต่ปางก่อนและอำนาจเทพยดาที่รักษาพระนครตลอดถึงเทวดาอารักษ์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ครั้งนี้อาตมาจะแปลพระธรรมช่วยกู้บ้านกู้เมือง ขอให้ช่วยดลบันดาลจิตใจให้สว่างแจ้งขจัดอุปสรรคที่จะมาขัดขวาง ขอให้แปลพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าสำเร็จสมปรารถนาเถิด” ท่านรับประเคนมาจากมือพราหมณ์แล้วนั่งสงบจิตอธิษฐานว่า “ขออำนาจคุณบิดามารดาครูบาอาจารย์และอำนาจผลบุญกุศลที่ได้สร้างมาแต่ปางก่อนและอำนาจเทพยดาที่รักษาพระนครตลอดถึงเทวดาอารักษ์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ครั้งนี้อาตมาจะแปลพระธรรมช่วยกู้บ้านกู้เมือง ขอให้ช่วยดลบันดาลจิตใจให้สว่างแจ้งขจัดอุปสรรคที่จะมาขัดขวาง ขอให้แปลพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าสำเร็จสมปรารถนาเถิด”

ครั้นแล้วท่านก็คว่ำบาตรเทอักษรทองคำเริ่มแปลปริศนาธรรมทันที ด้วยอำนาจบุญญาบารมี กฤษดาภินิหารของท่านที่ได้จุติลงมาเป็นพระโพธิสัตว์โปรดสัตว์ในพระพุทธศาสนา กอปรกับโชคชะตาของประเทศชาติที่จะไม่เสื่อมเสียอธิปไตย เดชะบุญญาบารมีในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เทพยาดาทั้งหลายจึงดลบันดาลให้ท่านเรียบเรียงและแปลอักษรจากเมล็ดทองคำ 84,000 ตัว เป็นลำดับโดยสะดวกไม่ติดขัดประการใดเลย

*******
ขณะที่ท่านเรียบเรียงและแปลอักษรไปได้มากแล้ว ปรากฏว่าเมล็ดทองคำตัวอักษรขาดหายไปเจ็ดตัวคือ ตัว สัง วิ ธา ปุ กะ ยะ ปะ ท่านจึงทวงถามเอาที่พราหมณ์ทั้งเจ็ด พราหมณ์ทั้งเจ็ดก็ยอมจำนวน จึงประเคนเมล็ดทองคำที่ตนซ่อนไว้นั้นให้ท่านแต่โดยดี ปรากฏว่าท่านแปลพระไตรปิฎกจากเมล็ดทองคำสำเร็จบริบูรณ์เป็นการชนะพราหมณ์ในเวลาเย็นของวันนั้น
********

#ติดตามต่อในโพสหน้านะครับ
#ประวัติหลวงปู่ทวด3

ถ้าเรื่องทองคำ #ต้องทองปาริชาติระยอง
#ทองดีมีคุณภาพราคาเหมาะสม

บทความจาก www.dharma-gateway.com

ประวัติหลวงปู่ทวด

#ประวัติหลวงปู่ทวด2

ในเรื่องราวของหลวงพ่อทวด วัดช้างไห้ เหยียบน้ำทะเลจืด 

เรื่องราวประวัติของ “หลวงพ่อทวด วัดช้างไห้” ที่ได้นำเสนอไปเมื่อโพสที่แล้ว เมื่อครั้งที่หลวงปู่ทวดยังเด็ก

#ที่มาของน้ำทะเลจืด

เมื่อกาลล่วงมานานจนเด็กชายปูอายุได้เจ็ดขวบ บิดาได้นำไปฝากสมภารจวง วัดกุฏิหลวง (วัดดีหลวง) เพื่อให้เล่าเรียนหนังสือเด็กชายปูมีความเฉลียวฉลาดมาก สามารถเรียนหนังสือขอมและไทยได้อย่างรวดเร็ว ครั้นอายุได้ 15 ปี ก็บรรพชาเป็นสามเณรและบิดาได้มอบแก้ววิเศษไว้เป็นของประจำตัว 

ต่อมาสามเณรปูได้ไปศึกษาต่อกับสมเด็จพระชินเสน ที่วัดสีหยัง (สีคูยัง) ครั้นอายุครบอุปสมบทจึงได้เดินทางไปศึกษาต่อที่นครศรีธรรมราช ณ สำนักพระมหาเถระปิยทัสสี ได้ทำการอุปสมบทมีฉายาว่า “ราโม ธมฺมิโก” แต่คนทั่วไปเรียกท่านว่า “เจ้าสามีราม” หรือ “เจ้าสามีราโม” เจ้าสามีรามได้ศึกษาอยู่ที่วัดท่าแพ วัดสีมาเมือง และวัดอื่นๆ อีกหลายวัด

เมื่อเห็นว่าการศึกษาที่นครศรีธรรมราชเพียงพอแล้วจึงขอโดยสารเรือสำเภาเดินทางไปกรุงศรีอยุธยา ขณะเดินทางถึงเมืองชุมพร เกิดคลื่นทะเลปั่นป่วน เรือไม่สามารถแล่นฝ่าคลื่นลมไปได้ต้องทอดสมออยู่ถึงเจ็ดวัน ทำให้เสบียงอาหารและน้ำหมดบรรดาลูกเรือตั้งข้อสงสัยว่าการที่เกิดเหตุอาเพศในครั้งนี้เพราะเจ้าสามีราม จึงตกลงใจให้ส่งเจ้าสามีรามขึ้นเกาะและได้นิมนต์ให้เจ้าสามีรามลงเรือมาด ขณะที่นั่งอยู่ในเรือมาดนั้น ท่านได้ห้อยเท้าแช่ลงไปในทะเลก็บังเกิดอัศจรรย์น้ำทะเลบริเวณนั้นเป็นประกายแวววาวโชติช่วง

เจ้าสามีรามจึงบอกให้ลูกเรือตักน้ำขึ้นมาดื่มก็รู้สึกว่าเป็นน้ำจืด จึงช่วยกันตักไว้จนเพียงพอ นายสำเภาจึงนิมนต์ให้ท่านขึ้นสำเภาอีก และตั้งแต่นั้นมาเจ้าสามีรามก็เป็นชีต้นหรืออาจารย์สืบมา

เมื่อถึงกรุงศรีอยุธยา ก็ได้ไปพำนักอยู่ที่วัดแค ศึกษาธรรมะที่ วัดลุมพลีนาวาส ต่อมาได้ไปพำนักอยู่ที่วัดของสมเด็จพระสังฆราช ได้ศึกษาธรรมและภาษาบาลี ณ ที่นั้นจนเชี่ยวชาญจึงทูลลาสมเด็จพระสังฆราชไปจำพรรษาที่วัดราชนุวาส เมื่อประมาณ พ.ศ. 2149 ตรงกับรัชสมัยของสมเด็จพระเอกาทศรถ

#ติดตามประวัติหลวงปู่ทวดได้ในโพสถัดไปนะคะ
#หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด2

ถ้าเรื่องทองคำ #ต้องทองปาริชาติระยอง
#ทองดีมีคุณภาพราคาเหมาะสม

บทความจาก www.dharma-gateway.com

หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด 1

หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด1

ชาวพุทธหลายท่านคงต้องเคยได้ยินชื่อของหลวงปู่ทวดกันดีอยู่แล้ว 

วันนี้ทองปาริชาติระยอง จะขอกล่าวถึงประวัติของหลวงปู่ทวดกันซักหน่อยนะครับ


สมเด็จเจ้าพะโคะหรือหลวงพ่อทวด เป็นที่รู้จักของชาวไทยทุกภูมิภาคในฐานะพระศักดิ์สิทธิ์ที่มีอิทธิปาฏิหาริย์และอภิญญาแก่กล้าจนได้สมญาว่า “หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด” ประวัติอันพิสดารของท่านมีเล่าสืบกันมาไม่รู้จบสิ้น ยิ่งนานวันยิ่งซับซ้อนและขยายวงกว้างออกไปกลายเป็นความเชื่อความศรัทธาอย่างฝังใจ

หลวงพ่อทวดเป็นบุคคลที่มีตัวตนจริงๆ เป็นเรื่อวราวที่ได้รวบรวมจากหนังสืออ้างอิงหลายเล่มทั้งที่เป็นตำนานหลักฐานทางประวัติศาสตร์ หนังสือและเอกสารต่างๆ พอจะได้ทราบว่า หลวงพ่อทวดคือใคร เกิดในสมัยใดและได้สร้างคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติและพระศาสนาไว้อย่างไรบ้าง เพื่อเป็นคติเตือนใจแก่อนุชนรุ่นหลังสืบไป

ในวัยเด็กของหลวงปู่ทวด #ทารกอัศจรรย์

เมื่อประมาณสี่ร้อยปีที่ผ่านมาในตอนปลายรัชสมัยของพระมหาธรรมราชา แห่งกรุงศรีอยุธยา ณ หมู่บ้านสวนจันทร์ ตำบลชุมพล เมืองจะทิ้งพระตรงกับวันศุกร์ เดือนสี่ ปีมะโรง พุทธศักราช 2125 

ได้มีทารกเพศชายผู้หนึ่งถือกำเนิดจากครอบครัวเล็กๆ ฐานะยากจนแร้นแค้น แต่มีจิตอันเป็นกุศล ชอบทำบุญสุนทานยึดมั่นในศีลธรรมอันดี ปราศจากการเบียดเบียนมนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย ทารกน้อยผู้นี้มีนายว่า “ปู” เป็นบุตรของนายหู นางจันทร์ ในขณะเยาว์วัย ทารกผู้นั้นยังความอัศจรรย์ให้แก่บิดามารดาตลอดจนญาติพี่น้องทั้งหลาย 

ด้วยอยู่มาวันหนึ่งมีงูตระบองสลาตัวใหญ่มาขดพันอยู่รอบเปลที่ทารกน้อยนอนหลับอยู่ และงูใหญ่ตัวนั้นไม่ยอมให้ใครเข้ามาใกล้เปลที่ทารกน้อยนอนอยู่เลย จนกระทั่งบิดามารดาของเด็กเกิดความสงสัยว่า พญางูตัวนั้นน่าจะเป็นเทพยดาแปลงมาเพื่อให้เห็นเป็นอัศจรรย์ในบารมีของลูกเราเป็นแน่แท้ 

จึงรีบหาข้าวตอกดอกไม้และธูปเทียนมาบูชาสักการะ งูใหญ่จึงคลายลำตัวออกจากเปลน้อย เลื้อยหายไป ต่อมาเมื่อพญางูจากไปแล้ว บิดามารดาทั้งญาติต่างพากันมาที่เปลด้วยความห่วงใยทารก ก็ปรากฏว่าเด็กชายปูยังคงนอนหลับอยู่เป็นปกติ แต่เหนือทรวงอกของทารกกลับมีดวงแก้วดวงหนึ่งมีแสงรุ่งเรืองเป็นรัศมีหลากสี ตาหู นางจันทร์จึงเก็บรักษาไว้ นับแต่บัดนั้นฐานะความเป็นอยู่การทำมาหากินก็จำเริญรุ่งเรืองขึ้นเป็นลำดับอยู่สุขสบายตลอดมา

#ติดตามต่อในโพสหน้านะครับ
#หลวงปู่ทวด2

ถ้าเรื่องทองคำ #ต้องทองปาริชาติระยอง
#ทองดีมีคุณภาพราคาเหมาะสม

บทความจาก www.dharma-gateway.com

ค่ากำเหน็จคืออะไร??

ค่ากำเหน็จคืออะไร??

บรรดานักสะสมทอง หรือผู้ที่รู้จักและนิยมซื้อทอง ส่วนใหญ่จะรู้จักดีอยู่แล้วว่าทำไมต้องมีค่ากำเหน็จ

ค่ากำเหน็จ ก็คือ ค่าแรง หรือ ค่าจ้าง ในการผลิตทองคำ จากทองคำแท่ง กลายมาเป็นทองรูปพรรณ สวยๆที่เราเห็นกันตามร้านทองต่างๆ

ซึ่งราคาค่ากำเหน็จจะแตกต่างกันตามความยากง่ายตามแบบของทองรูปพรรณที่ทำขึ้น

ตามมาตรฐานค่าแรงของไทยแล้วก็อยู่ที่ประมาณ 400-800 บาท ต่อน้ำหนักทอง 1 บาท หรือหลักพันบาทก็มี ขึ้นอยู่กับร้านทองแต่ละร้านที่จะกำหนด

.
ทองคำแท่งก็มีค่ากำเหน็จเช่นเดียวกันตามแบบและลวดลาย โดยจะหลอมจนละลายแล้วเทลงไปในบล็อคให้ได้รูปร่างออกมาเป็นแท่ง
.

ซึ่งแต่ละร้านก็จะคิดค่าบล็อคแตกต่างกันออกไป โดยปกติจะอยู่ที่ประมาณ 50-200 บาทต่อบาททองคำ ดังนั้น หากต้องซื้อทองคำแท่ง 1 บาท ต้องจ่ายทั้งค่าทองคำและค่าบล็อคการผลิตด้วยนั่นเอง 

ทีนี้ก็รู้กันแล้วนะครับว่า ทองที่เราซื้อกัน ทำไมราคาถึงไม่ตรงกับหน้าร้าน ก็เพราะมีค่ากำเหน็จที่คิดตามความสวยงาม ของลวดลายของทองนั่นเอง

สนใจดูแบบและลวดลายทองคำ ทองรูปพรรณ 
หรือสั่งซื้อออนไลน์ ติดต่อได้ที่ #ร้านทองปาริชาติระยอง
ชั้น 2 ห้างบิ๊กซีระยอง

inbox : m.me/ParichatGoldShopBigCRayong
Line @thongparichat (อย่าลืม @ นะครับ)

ทองไมครอนทองจริงหรือทองเก๊

#ทองไมครอนทองจริงหรือทองเก๊ ❗️?

ผมเชื่อว่าใครหลายๆคนคงได้ยินคำว่า #ทองไมครอน กันมาบ้างแล้วนะครับ

ทองไมครอน คือ เครื่องประดับที่ “ไม่ได้” ทำมาจากทองแท้นะครับ แต่ทำให้เสมือนเป็นทองคำแท้ ที่ผ่านการทำให้พื้นผิวของตัวเรือน สี ที่แค่ดูผ่านๆ แล้วเหมือนทองคำแท้นั่นเอง

หรือที่เรียกว่า “ทองปลอม” หรือ “ทองเก๊”

เมื่อผ่านไประยะเวลาหนึ่งทองไมครอนนี้ก็จะค่อยๆ หมองลง แต่ความทนทานก็ขึ้นอยู่กับความหนาของทองที่ใช้ในการชุบ ซึ่งความหนาของทองคำในการชุบ เราจะมีหน่วยเรียกว่า ไมครอน ยิ่งค่าไมครอนสูงความทนทานก็จะสูง อายุการใช้งานก็จะนานตามไปด้วย 
.

แต่ ถ้าหากมีค่าไมครอนต่ำ แสดงว่าผิวของทองที่ชุบมีความบาง ทำให้มีอายุของการใช้งานสั้นลง สีหมองคล้ำ ดำ อาจจะหลุดลอกออกไปได้ง่าย ติดตามผิวหนังเวลาสวมใส่ได้ 

.
ด้วยเหตุนี้ จึงไม่สามารถนำไปจำนำหรือนำไปขายต่อในรูปแบบของทองคำแท้ได้ครับ
.

ระยะเวลาการใช้งานของเครื่องประดับทองไมครอน นอกจากขึ้นอยู่กับความหนาของทองที่ชุบแล้ว ยังขึ้นอยู่กับสภาพความเป็นกรดด่างในเหงื่อของผู้สวมใส่ ชีวิตประจำวัน และการดูแลรักษา ซึ่งในคนที่มีเหงื่อเค็ม เครื่องประดับก็หมองเร็วกว่า

รู้กันแล้วนะครับว่า ทองไมครอนไม่ใช่ทองแท้ๆ แต่ด้วยลักษณะสีภายนอกที่ดูแค่ผ่านๆ ดูแล้วเหมือนกับทองคำจริงๆ แบบนี้จึงเป็นช่องทางให้กับมิจฉาชีพนำมาหลอกขายได้ง่ายๆ

เพราะฉะนั้น การเลือกซื้อทองทุกครั้ง ควรเลือกซื้อจากร้านทองที่ไว้ใจได้ และยึดถือเรื่องคุณภาพและความซื่อสัตย์

——————————
——————————

อยากมีทองคำแท้คุณภาพราคามาตรฐานไปใส่สวยๆ
#เพจทองปาริชาติระยอง
inbox : m.me/ParichatGoldShopBigCRayong
Line @thongnarichat (มี @ นำหน้า)

#ทองคุณภาพ #ทองคำแท้ 96.5%
#ออมทอง #ซื้อทองราคาถูก